วันที่ 22 ธันวาคม 2567 นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาได้ลงนามอนุมัติการเข้าทำประโยชน์ หรืออยู่อาศัยภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติ เพื่อนำไปดำเนินโครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาล (คทช.) ให้กับประชาชนในพื้นที่ 3 จังหวัด ได้แก่ กาฬสินธุ์, แพร่ และพังงา รวมเนื้อที่กว่า 6,617 ไร่ ซึ่งพื้นที่แต่ละจังหวัดได้รับความเห็นชอบในหลักการจากคณะกรรมการพิจารณาการใช้ประโยชน์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติมาแล้วตั้งแต่ปี 2564 และได้รับความเห็นชอบพื้นที่เป้าหมายจากคณะกรรมการจัดหาที่ดินแล้วตั้งแต่ช่วงปี 2564-2565 แต่
เนื่องจากทั้ง 3 พื้นที่ มีพื้นที่บางส่วน หรือทั้งหมดอยู่ในเขตจำแนกการใช้ประโยชน์ทรัพยากรและที่ดินป่าไม้ เขตพื้นที่ป่าเพื่อการอนุรักษ์เพิ่มเติม (Zone C) ที่ต้องมีการจัดทำรายการข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อม ให้คณะกรรมการเพื่อพิจารณารายการข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อมและรายงานข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อม ให้ความเห็นชอบก่อนเสนอให้ รมว.ทรัพยากรฯ เป็นผู้พิจารณาอนุญาตการเข้าทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในพื้นที่ ตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2537 นอกจากนี้ บางพื้นที่ยังมีการปรับลดเปลี่ยนแปลงเนื้อที่จากทางจังหวัด และเจ้าหน้าที่ผู้ตรวจสอบสภาพป่า ทำให้มีกระบวนการที่ทำให้ชาวบ้านต้องใช้ระยะเวลาในการรอคอยมาอย่างยาวนาน
รมว.ทรัพยากรฯ กล่าวต่อว่า ในวันนี้ถือเป็นการสิ้นสุดการรอคอยของพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์, แพร่ และพังงา ที่จะมีที่ดินทำกินในเขตป่าสงวนแห่งชาติได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งจะทำให้ได้รับการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานที่จำเป็นตามมา เพื่อให้สามารถประกอบอาชีพได้อย่างมั่นคง หลังจากที่กระทรวงทรัพยากรฯ พิจารณาอนุญาตการเข้าใช้พื้นที่เรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อไปทั้ง 3 จังหวัด จะเข้าสู่ขั้นตอนของคณะอนุกรรมการจัดที่ดิน โดยมีกระทรวงมหาดไทยเป็นผู้รับผิดชอบ และคณะอนุกรรมการส่งเสริมและพัฒนาอาชีพ ซึ่งมีกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นผู้รับผิดชอบ โดยประชาชนจะได้รับการจัดสรรที่ดินรายละไม่เกิน 20 ไร่ ขอให้ประชาชนที่ได้รับการจัดสรรเข้าถือครองพื้นที่ ร่วมกันดูแลรักษาพื้นที่ให้ดี ปฏิบัติตามเงื่อนไขการใช้พื้นที่อย่างเคร่งครัดต่อไป
“ครั้งนี้ถือเป็นการประเดิมมอบของขวัญปีใหม่ จากกระทรวงทรัพยากรฯ ให้กับพี่น้องประชาชนเป็น 3 จังหวัดแรก ใน 3 ภูมิภาค และในปี 2568 จะเร่งดำเนินการในพื้นที่ที่เหลือให้ครบตามเป้าหมายโดยเร็วต่อไป” นายเฉลิมชัย กล่าว
นายเฉลิมชัย กล่าวอีกว่า พื้นที่ทั้ง 3 จังหวัดที่ได้รับการอนุญาตให้เข้าทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในเขตป่าสงวนแห่งชาติ เพื่อดำเนินโครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาล (คทช.) ในครั้งนี้ เป็นพื้นที่ที่อยู่เขตชั้นคุณภาพลุ่มน้ำ ชั้นที่ 3, 4 และ 5 ได้แก่ 1.เขตป่าสงวนแห่งชาติป่าดงมูล ท้องที่ตำบลกุงเก่า อำเภอท่าคันโท จังหวัดกาฬสินธุ์ เนื้อที่ 661 ไร่ 3 งาน 39.37 ตารางวา ซึ่งพื้นที่ทั้งหมดอยู่ในเขต Zone C , 2.เขตป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่สรอย ท้องที่ตำบลแม่พุง ตำบลป่าสัก และตำบลสรอย อำเภอวังชิ้น จังหวัดแพร่ เนื้อที่ 3,606 ไร่ 1 งาน 88 ตารางวา โดยมีพื้นที่บางส่วนอยู่ในเขต Zone C เนื้อที่ 462 ไร่ 3 งาน 24 ตารางวา 3.เขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาหลักลำแก่น ท้องที่ตำบลคึกคัก อำเภอตะกั่วป่า และตำบลลำแก่น อำเภอท้ายเหมือง จังหวัดพังงา เนื้อที่ 2,350 ไร่ 1 งาน 41 ตารางวา โดยมีพื้นที่ส่วนใหญ่อยู่ในเขต Zone C เนื้อที่ 2,174 ไร่ 3 งาน 30 ตารางวา ซึ่งทั้ง 3 พื้นที่มีกำหนดระยะเวลาการอนุญาต 30 ปี และต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขแนบท้ายใบอนุญาต รวม 26 ข้อ เพื่อการร่วมดูแลและรักษาพื้นที่ป่าสงวน